5 ยี่ห้อรถยนต์ ที่คนไทยนิยมใช้มากที่สุด

5 ยี่ห้อรถยนต์ (รถยนต์ส่วนบุคคลนั่งไม่เกิน 7 ที่นั่ง) ที่ คนไทยนิยมใช้มากที่สุด

(5 most popular car brand in Thailand)

ทุกวันนี้เราคงต้องยอมรับว่า รถยนต์ได้เข้ามาเป็นปัจจัยที่ 5 ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตของคนเราไปแล้ว ซึ่งค่ายรถยนต์ต่างๆ ก็ทราบถึงความต้องการนี้เป็นอย่างดี จึงได้แข่งขันกันพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆขึ้นมา เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์และความต้องการของผู้ซื้อ ไม่ว่าจะเป็นดีไซด์ที่สวยงาม ความเอาใจใส่ หรือบริการหลังการขาย และที่ขาดไม่ได้ในยุคที่เศรษฐกิจน้ำมันแพงก็คือ "การประหยัดน้ำมัน" ซึ่งเรียกว่าเป็นเทคโนโลยีรักสิ่งแวดล้อม และยังประหยัดเงินในกระเป๋าได้อีกด้วย

นอกจากนี้ แทบทุกค่ายก็ยังเพิ่มแรงจูงใจมากขึ้น ด้วยการตั้งราคาเริ่มต้นที่ไม่สูงเกินไป ก็จึงทำให้คนไทยถอยรถยนต์ป้ายแดงออกมาขับกันมากขึ้นด้วยเช่นกัน จากสถิติของกรมการขนส่งทางบก ระบุว่าตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ประเทศไทยมีรถยนต์ไม่เกิน 7 ที่นั่ง เป็นรถยนต์ที่มีมากที่สุดในประเทศไทย จดทะเบียนไว้มากถึง 4,557,226 คัน ซึ่งในปัจจุบันค่ายรถที่มาขายในบ้านเราก็มีมากกว่า 60 ค่าย และแต่ละค่ายก็มีจุดเด่นที่ดึงดูดลูกค้าแตกต่างกันออกไป

ตั้งแต่อดีตจนถึงเดือนมกราคม ปี 2554 บรรดารถยนต์หลากหลายยี่ห้อที่มาอยู่ในบ้านเรานี้ เราจะบอกให้ทราบกันว่า รถยนต์ยี่ห้อไหนจะเป็นรถยนต์ที่เป็นที่นิยมของคนไทยมากที่สุด

อันดับที่ 5 : คือ NISSAN (นิสสัน)

NISSAN (นิสสัน) หรือที่คนไทยในอดีตรู้จักกันดีในชื่อ "DATSUN" รถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นที่ถูกจดจำใน ภาพของตระกูลรถยนต์สปอร์ตของเอเชีย จากภาพของรถรุ่นแรกๆ ที่ผลิตออกมา อทิเช่น Nissan Fairlady Z และ Skyline ซึ่งจนถึงทุกวันนี้ก็ยังได้รับความนิยมอย่างมาก ทั้งในบ้านเราและในตลาดรถสปอร์ตทั่วโลก

นอกจากนี้นิสสันยังพยายามจับตลาดผู้บริโภคที่มีทุนน้อย ควบคู่ไปกันการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆให้เข้ากับความต้องการของโลก ด้วยการผลิตรถอีโก้คาร์ (Eco car) อย่าง Nissan MARCH มาเรียกกระแสและยอดจำหน่าย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน จึงมีคนไทยที่เป็นเจ้าของรถยี่ห้อ Nissan (นิสสัน) มากถึง 301,067 คัน นิสสันจึงเข้ามาอยู่ในอันดับที่ 5 ของรถยนต์ส่วนบุคคลนั่งไม่เกิน 7 ที่นั่ง ยี่ห้อที่คนไทย นิยมใช้มากที่สุด

อันดับที่ 4 : MITSUBUSHI (มิตซูบิชิ)

จุดเด่นของ MITSUBUSHI ก็คือ ระบบช่วงล่างที่ทันสมัย และมีเทคโนโลยีเทียบเท่ารถยุโรป ทำให้ความคิดเก่าๆที่มองว่าช่วงล่างของรถญี่ปุ่นด้อยกว่านั้น ใช้ไม่ได้กับรถมิตซูบิชิ นอกจากนี้ยังพร้อมรองรับความต้องการของผู้ซื้อในทุกไลฟ์สไตล์ จากการผลิตรถยนต์แต่ละรุ่นที่มีความหลากหลายในการใช้งาน ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันจึงมีคนไทยที่เป็นเจ้าของรถ MITSUBUSHI (มิตซูบิชิ) มากถึง 328,331 คัน

อันดับที่ 3 : ISUZU (อิซูซุ)

แนวทางการตลาดของ ISUZU คือการเจาะกลุ่มลูกค้าในทุกระดับอาชีพ โดยเน้นความคุ้มค่าสูงสุดตามประโยคเด็ด "เดินหน้ารวย" โดยภาพลักษณ์ของ ISUZU ในสายตาคนไทย คือความโดนเด่นจากเครื่องยนต์ที่ทนทานและช่วยประหยัดเงินในการซ่อมบำรุง นอกจากนี้ก็ยังเน้นในเรื่องการประหยัดน้ำมันด้วยเช่นกัน ดังนั้นในประเทศที่เน้นเรื่องการเกษตรอย่างในประเทศไทย รถยนต์อิซูซุจึงเป็นรถยนต์ที่ครองใจคนต่างจังหวัดมากกว่าคนในเมือง โดยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน จึงมีคนไทยที่ครอบครองรถยนต์ ISUZU มากถึง 357,607 คัน

อันดับที่ 2 : HONDA (ฮอนด้า)

HONDA (ฮอนด้า) เริ่มประสบความสำเร็จจากการขายรถยนต์ที่มีชื่อว่า HONDA CIVIC โดยรถยนต์รุ่นนี้เริ่มออกขายในปีพ.ศ. 2515 และ HONDA ACCORD ในปีพ.ศ. 2519 ที่ทำยอดขายได้อย่างถล่มทลาย ถึงปัจจุบันฮอนด้าก็ยังพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ และตามกระแสสังคมเช่นเดียวกับหลายๆยี่ห้อ ด้วยการออกรถอีโก้คาร์ภายใต้ชื่อ HONDA BRIO และด้วยความที่เป็นรถญี่ปุ่นที่หาอะไหล่ได้ไม่ยาก อีกทั้งยังมีหลายรุ่นเพื่อตอบสนองความต้องการอันหลากหลายของลูกค้า จึงทำให้ปัจจุบันมีรถยนต์ฮอนด้าในประเทศไทยมากถึง 984,496 คัน

อันดับที่ 1 : TOYOTA (โตโยต้า)

บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ นอกจากจะเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์อันดับ 1 ของญี่ปุ่นแล้ว ยังเป็นบริษัทผลิตรถยนต์อันดับ 1 ของโลกด้วย และด้วยศักยภาพด้านการผลิตที่มีคุณภาพนั่นเอง จึงสามารถทำให้ TOYOTA สามารถผลิตรถยนต์ได้ไม่ต่ำกว่า 8 ล้านคันต่อปีเลยทีเดียว ด้วยความโดดเด่น คล่องตัวและครองตำแหน่งรถยนต์ที่ขายดีที่สุดในประเทศไทยอย่าง TOYOTA VIOS ซึ่งเป็นสิ่งที่โตโยต้าตอบสนองความต้องการของคนใช้รถได้อย่างครอบคลุม ที่สำคัญโตโยต้ายังตอบสนองความมั่นใจในการดูแลหลังการขายกับศูนย์บริการกว่า 300 แห่ง ด้วยช่างผู้ชำนาญ นี่จึงเป็นเหตุผลให้ TOYOTA เป็นรถยนต์ที่ครองใจคนไทย โดยมีมากถึง 1,707,183 คัน



ที่มาข้อมูล รายการ 5 มหานิยม

ตรวจสอบและซ่อมแซมรถยนต์ หลังน้ำท่วมด้วยวิธีง่ายๆ (How to fix your car after a flood)

คู่มือซ่อมรถยนต์หลังน้ำลด

สำหรับรถยนต์ การดูแลรถหลังน้ำท่วม จากข้อมูล auto.sanook.com แนะนำเทคนิคซ่อมรถยนต์น้ำท่วมนั้นนับว่าเป็นเรื่องของอาชีพช่างยนต์กันเสียส่วนใหญ่ ที่งานเข้าหลังจากภัยพิบัติครั้งนี้ แต่เพื่อความสบายใจเราจะพาเพื่อนๆไปรู้จักว่าอะไรบ้างที่ต้องซ่อมและดูแล หลังเหตุการณ์น้ำท่วมและอะไรบ้างที่สำคัญ

1. ตรวจความเสียหาย ข้อแรกที่สำคัญและต้องทำหลังน้ำลดลงไปจนกลับสู่สภาวะปกตินั้นคือ การตรวจสอบความเสียหายของรถ ดูให้หมดทั้งภายในภายนอก เปิดฝากระโปรงเช็คเครื่องให้ครบครัน และถ้ารถคุณมีประกันภัยชั้น 1 ก็อย่าลืมแจ้งประกันด้วย จะได้ผ่อนหนักเป็นเบาในเรื่องค่าใช้จ่ายในการซ่อม

2. อย่าสตาร์ทเครื่องยนต์ เรามักย้ำเป็นประจำในข้อนี้เกี่ยวกับการดูแลรถหลังน้ำท่วม เนื่องจากการสตาร์ทเครื่องยนต์แบบสุ่มสี่สุ่มห้านั้นอาจทำให้เครื่องยนต์ได้รับความเสียหาย โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ โดยเฉพาะเศษผงต่างที่มากับน้ำสามารถสร้างความเสียหายต่อระบบเครื่องยนต์ได้ อีกประการคือ รถที่แช่น้ำนานๆจะมีความชื้นจะสามารถสร้างความเสียหาย ทำให้ไฟฟ้าลัดวงจรได้เช่นกัน

3. ส่งสู่มือช่าง เมื่อตรวจสอบเรียบแล้วก็ได้เวลาที่เราต้องส่งสู่มือช่างผู้ชำนาญการให้ดำเนินการ โดยในการส่งรถที่รักไปซ่อมแซมความเสียหายนั้น ควรรายงานระดับน้ำที่รถคุณไปว่ายน้ำมา เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการตรวจสอบทางด้านต่างๆของช่าง ทำให้สามารถทำงานได้รวดเร็วขึ้น

4. อะไรบ้างที่จะเสีย แน่นอนเราไม่แนะนำให้คุณซ่อมรถน้ำท่วมเอง เพราะคุณจะปวดหัวกับมันอย่างแน่นอน แต่อย่างน้อยก็ควรต้องรู้บ้างว่าอะไรที่จะเสียหายบ้าง เพื่อประเมินค่าใช้จ่าย กรณี ด้านเครื่องยนต์ ตามปกติแล้วความเสียหายของเครื่องยนต์นั้น จะเกิดขึ้นในระบบ Intake หรือระบบดูดอากาศ

ซึ่งสิ่งแรกที่จะต้องเปลี่ยนคือ “กรองอากาศ” เพราะขี้ผงจากน้ำนั้นจะเข้าไปติดอยู่ในส่วนนี้เสียมาก ช่างจะต้องถอดหม้อกรองออกมาล้างทำความสะอาดอย่างแน่นอน ล้างลิ้นปีกผีเสื้อ แต่ถ้าแจ็คพอทก็เจอ น้ำเข้าเครื่อง ก็ต้องมีการถอดประกอบเครื่องยนต์ เพื่อความสะอาด ซึ่ง อาจจะรวมถึงชุด “หัวเทียน” ที่จะเสื่อมสภาพจากสภาวะความชื้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนพวกเซ็นเซอร์นั้นก็ต้องเช็คตามปกติ

ที่สำคัญต้องได้มีถ่ายของเหลวทุกชนิด ทั้งน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันเฟืองท้าย อาจจะรวมถึงน้ำยาหม้อน้ำด้วย เพื่อความไม่ประมาท เพราะน้ำอาจจะซึมเข้าไปทำให้เมื่อใช้ไปนานๆ เกิดความเสียหายได้

กรณีช่วงล่าง
น้ำท่วมนั้นสามารถสร้างความเสียหายกับระบบช่วงล่างได้เช่นกัน โดยเฉพาะพวกลูกยางต่างๆ ที่ฝืดจากการโดนความชื้นในการแช่น้ำเป็นระยะเวลานานๆ ตามปกติแล้ว รถที่โดนน้ำท่วมเป็นเวลานานๆนั้น จำเป็นต้องอัดจาระบีใหม่ เนื่องจากน้ำทำให้จาระบีเก่าเสื่อมสภาพ โดยเฉพาะการอัดจาระบีเพลาขับ และลูกปืนล้อทั้ง 4 ล้อ ซึ่งตรงนี้ค่อนข้างที่จะเป็นเรื่องสำคัญ เพราะถ้าไม่มีจารบีหล่อยู่อาจจะทำให้ลูกปืนแตก หรือ เพลาขับมีเสียดัง ทำให้เกืดความร้อนสะสม จนนำไปสู่เพลาขับรูด หรือลูกปืนเพลาขับแตก อันตรายมาก โดยเฉพาะรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้า

นอกจากนี้ยังต้องมีการตรวจสอบและทำความสะอาดระบบเบรค โดยเฉพาะรถที่ใช้ระบบดิสเบรก อาจจะมีเศษผงเข้าไปติด ทำให้เบรคมีประสิทธิภาพลดลงและอาจจะกินจานเบรคได้ในระยะยาว ซึ่งในกรณีนี้ต้องมีการเปลี่ยนน้ำมันเบรคที่อาจจะมีการเสื่อมประสิทธิภาพด้วย

กรณีระบบไฟฟ้าและคอมพิวเตอร์
ส่วนใหญ่แล้วความเสียหายจากรถยนต์ที่ถูกน้ำท่วมนั้นมักจะเกิดขึ้นที่ระบบไฟฟ้าเสียมากกว่า ซึ่งประเด็นสำคัญก็ไม่พ้นการไล่ความชื้นในระบบ ที่จำเป็นต้องให้เป็นหน้าที่ของช่าง แต่ถ้าคุณโชคร้าย ก็อาจจะพบว่า ระบบคอมพิวเตอร์ หรือ ECU ลากลับบ้านเก่า นี่ยังไม่นับกล่องเกียร์ที่มักติดตั้งอยู่ในตำแหน่งที่ต่ำเช่นกัน

5. ทำความสะอาดภายใน ได้เวลาลุย เมื่อรถคุณพ้นจากมือช่างเครื่องยนต์มาได้ขับได้เป็นติดสุขแล้ว ก็ให้มาจัดการในเรื่องภายในห้องโดยสารก่อน อย่างที่ได้บอกไปแล้วแต่เริ่มต้นว่าน้ำที่ท่วมนั้น เป็นน้ำที่ไม่ค่อยสะอาด และยิ่งคุณทิ้งไว้นานก็ยิ่งจะทำให้มีกลิ่นอับ ดังนั้นขั้นแรก คุณต้องอาศัยคาร์แคร์ต่างๆ ในการถอดพรม-ซักเบาะ และทุกอย่างให้เอี่ยมอ่อง

หลังจากนั้นก็ต้องไม่ลืมจัดการเรื่องกลิ่นด้วย ถ้าเป็นไปได้ ถือโอกาสล้างตู้แอร์ก็จะเป็นการดีใช่น้อย โดยเฉพาะถือโอกาสนี้เปลี่ยนน้ำยาแอร์เผื่อน้ำอาจจะซึมเข้าระบบ และที่สำคัญรถบางคันนั้นมีกรองแอร์อันนี้ต้องเปลี่ยนสถานเดียว เพราะส่วนใหญ่ เมื่อโดนน้ำแล้วกลิ่นจะติดครับ

6. สนิมภัยร้ายที่รอวันย่างกราย เราอาจจะเสร็จเรื่องเครื่องและภายในห้องโดยสารกันไปเรียบร้อย แต่ก็ต้องไม่ลืมเรื่องของตัวถังด้วย โดยเฉพาะรถใครที่มีบาดแผลจากการชนก่อนน้ำท่วม อันนี้พึงระวังให้ดี เพราะสนิมนั้นจะถามหาอย่างไม่ต้องสงสัย หลังน้ำท่วมทางที่ดี แวะไปทำสีในจุดที่เกิดการชนก็ดีใช่น้อย เพราะจุดนั้นอาจจะเป็นสนิม ซึ่งสามารถทำให้เกิดการผุและเสียหายได้ในท้ายที่สุด

ทั้งนี้ ด้วยการดูแล 6 ขั้นตอนที่ควรทำจากเราก็น่าจะทำให้รถของเพื่อนๆ กลับมาเหมือนเดิมไม่มากก้น้อย แต่ข้อสำคัญนั้นคือเวลา และทุนรอน บางทีค่อยๆ ทำ ทำสิ่งที่สำคัญก่อนก็จะช่วยให้รถอยู่คู่คุณไปอีกนาน


credit: http://ipom.siamthaiweb.com

6 ข้อที่ควรปฏิบัติ เมื่อขับรถบนถนนน้ำท่วม และหลังจากที่รถลุยน้ำมาแล้ว

6 ข้อที่ควรปฏิบัติ เมื่อขับรถบนถนนน้ำท่วม และหลังจากที่รถลุยน้ำมาแล้ว

(6 Rules for driving on flooded roads)

ประเทศไทยช่วงนี้ต้องประสบกับอุทกภัยอย่างหนัก ที่เป็นภัยธรรมชาติที่เราไม่อาจต้านทานไหวจริงๆ คนไทยจึงต้องรับมือเกี่ยวกับภาวะน้ำท่วมอย่างหนัก และปัญหาที่พบบ่อยที่สุดคงไม่พ้นการขับยานพาหนะฝ่าน้ำท่วม ซึ่งอาจเป็นปัญหาที่หลีกเลี่ยงได้ยาก ฉนั้นวันนี้เราจึงมีผู้เชี่ยวชาญด้านยานยนต์ มาบอกคำแนะนำดีๆสำหรับผู้ที่ขับขี่รถยนต์ในพื้นที่น้ำท่วมขังมาฝาก ในระหว่างต้องเผชิญน้ำบนพื้นผิวจราจร




6 ข้อที่ควรปฏิบัติ เมื่อขับรถบนถนนน้ำท่วม และหลังจากที่รถลุยน้ำมาแล้ว

ข้อที่ 1 : ห้ามเปิดแอร์เด็ดขาก
ข้อแรกนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ คือ ต้องปิดแอร์รถยนต์ เพราะเมื่อเปิดแอร์ขณะขับรถ พัดลมของรถยนต์จะทำงาน ซึ่งจะทำให้พัดลมนั้นพัดให้น้ำกระจายไปทั่วห้องเครื่องของรถคุณ มิหนำซ้ำพัดลมอาจจะพัดขยะเข้ามาติดกับใบพัดได้ด้วย หรืออาจจะทำให้ใบพัดนั้นหักจากการพัดต้านแรงดันของน้ำ และเมื่อนั้นอาจเป็นเหตุให้เครื่องยนต์ดับ

ข้อที่ 2 : ควรใช้เกียร์ต่ำ
ห้ามใช้เกียร์สูง ห้ามขับรถเร็ว ถ้ารถที่เป็นเกียร์ธรรมดาให้ใช้เกียร์ประมาณเกียร์2 หรือประมาณเกียร์ L สำหรับรถเกียร์ออโต้ และค่อยเป็นค่อยไป ให้ขับรถด้วยความใจเย็น เพราะถ้าใจร้อนขับเร็ว อาจเกิดอันตรายต่อตัวคุณเอง และคนรอบข้างได้ ทั้งนี้ยังป้องกันการเกิดคลื่นน้ำที่ำทำให้จังหวะน้ำสูงขึ้นบางจังหวะด้วย ซึ่งอาจจะเป็นอันตรายต่อเครื่องยนต์

ข้อที่ 3 : ไม่ควรเร่งเครื่อง และควรใช้ความเร็วสม่ำเสมอ
ไม่ควรเร่งเครื่องเพราะจะทำให้รถมีความร้อนสูง จนใบพัดระบายความร้อนเริ่มทำงาน และสิ่งที่จะตามมาคือเครื่องยนต์ดับนั่นเอง นอกจากนั้น ควรใช้ความเร็วสม่ำเสมอ อย่าหยุด และอย่าเร่งความเร็ว ทางที่ดีควรขับตามคันข้างหน้าไปด้วยความเร็วสม่ำเสมอ

หลังจากรถลุยน้ำมาแล้วควรทำดังนี้

ข้อที่ 4 : สตาร์ทรถทิ้งไว้สักพัก ไม่ควรดับเครื่องทันที
ควรสตาร์ทรถทิ้งไว้สักพัก ไม่ควรดับเครื่องในทันที ถึงแม้ว่าถึงจุดหมายแล้วก็ตาม เพราะอาจมีน้ำค้างอยู่ในหม้อพักของท่อไอเสีย และหากมีน้ำหรือไอน้ำออกจากท่อไอเสีย ก็ไม่ต้องตกใจ เพราะว่าการสตาร์ทรถทิ้งไว้จะสามารถทำให้น้ำในหม้อพัก ระเหยออกไปได้ ซึ่งหากทิ้งค้างไว้ อาจเป็นเหตุให้ผุพังได้

ข้อที่ 5 : เกียร์ออโต้ ให้ย้ำเบรกเพื่อไล่น้ำก่อน
สำหรับรถเกียร์ออโต้ ให้ย้ำเบรกเพื่อไล่น้ำก่อน เพราะช่วงแรกๆหลังลุยน้ำมา อาจมีภาวะที่เบรกไม่อยู่เกิดขึ้น ดังนั้น การย้ำเบรก ก็เพื่อไล่น้ำออกจากระบบเบรก

ข้อที่ 6 : เกียร์ธรรมดา ให้ย้ำเบรก และย้ำคลัช
สำหรับรถที่เป็นเกียร์ธรรมดา นอกจากจะย้ำเบรกแล้ว จะต้องมีการย้ำคลัชด้วย เพราะหลังจากที่ลุยน้ำมาอาจจะเกิดปัญหาคลัชลื่นเพิ่มขึ้นด้วย ฉนั้นจึงต้องทำทั้งย้ำคลัชและย้ำเบรกด้วยนั่นเอง

หนัง FAST & FURIOUS 5 จัดกิจกรรมรวมพลคนรักรถ แรลลี่รถแต่ง กรุงเทพ-พัทยา

หนัง FAST & FURIOUS 5 จัดกิจกรรมรวมพลคนรักรถ แรลลี่รถแต่ง กรุงเทพ-พัทยา พร้อมคอนเสิร์ตริมหาดพัทยา

หนัง FAST & FURIOUS 5 จัดกิจกรรมรวมพลคนรักรถ แรลลี่รถแต่ง กรุงเทพ-พัทยา พร้อมคอนเสิร์ตริมหาดพัทยา 9 เมษายน 54 นี้ ระเบิดความมันส์ แบบไร้ขีดจำกัด พร้อมลุ้นเงินรางวัล รวมกว่า 300,000 บ.

เปิดตัวแล้วสำหรับภาพยนตร์ที่คน รักรถรอคอย FAST & FURIOUS 5 หรือ เร็ว…แรงทะลุนรก 5 ได้เริ่มจัดกิจกรรมเพื่อรวมพลแฟนๆหนังคนรักรถทั้งหลาย ให้มาพบปะสนุกสนานกันก่อนที่จะมันส์เต็มๆกับภาพยนตร์ที่กำลังจะเข้าฉาย 5 พค.นี้ในประเทศไทย โดยร่วมกับยาง NITTO, วิทยุติดรถยนต์ KENWOOD และ SF Cinema และ พาร์ตเนอร์อื่น ๆ อีกมากมายร่วมจัดกิจกรรมมันส์ ๆ ชิล ๆ ให้ได้ร่วมสนุกกัน ในชื่อว่า “Nitto: FAST & FURIOUS 5 Bracket Rally” เส้นทางกรุงเทพ-พัทยา วันที่ 9 เมษายนนี้ สำหรับแฟนๆ ภาพยนตร์ FAST & FURIOUS 5 และ กลุ่ม Car Club ต่างๆ ที่สนใจ สามารถสมัครและติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.facebook.com/fastandfuriousthailandfanclub

โดยรายละเอียดการสมัครและการแข่งขันนั้นมีรายละเอียด คร่าวๆ ตามนี้

• สมัครฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
• งานนี้ขอสงวนสิทธิ์เฉพาะรถแต่งเพียงเท่านั้น (แค่เปลี่ยนล้อแม็กซ์ก็ได้แล้วนะครับ)
• รับสมัครจำนวน จำกัด 300 คัน เพียงเท่านั้น (เนื่องด้วยพื้นที่จอดรถจำนวนจำกัดครับ)
• การแข่งขันแบ่งรถออกเป็น 3 รุ่น ไม่เกิน 1500 cc , ไม่เกิน 2000 cc , และ รุ่น Open 2,000 cc ขึ้นไป turbo , supercharge และ Supercar
• รางวัลสำหรับผู้ชนะในแต่ละรุ่น เงินสด 100,000 บ./รุ่น
• รถที่ไม่ได้ใช้ยาง Nitto เครื่องเสียง Kenwood ฯลฯ ก็สามารถร่วมสนุกได้ครับ เพียงแค่ ถ้าใครใช้สินค้าดังกล่าวแล้วเป็นผู้โชคดีชนะนั้น ก็จะได้รับเงินรางวัลเพิ่มอีก 50,000 บ./รางวัล (**สงวนสิทธิ์สามารถรับ top up ได้เพียงรางวัลเดียว)
• เส้นทางการแข่งขัน จากลานด้านหน้า CentralWorld – Central Pattaya beach
• กิจกรรมภายในงานที่ Central Pattya beach (Booth sponsor , คอนเสริตร์จากศิลปินชื่อดัง Slotmachine , after party จาก DJ ชื่อดัง และพิเศษสุด ชมภาพยนตร์ Fast & Furious ตั้งแต่ภาค 1 – 4 แบบสุด chill ริมทะเลพัทยา ฝั่งตรงข้าม Central Pattya Beach)

กติกาการตัดสิน

• รถแต่ละคันจะได้รับบัตรตอกจับเวลาของรถแต่ละคัน (ตอกเมื่อออกจากจุด start – finished) และ คำนวนเวลารวมทั้งหมดที่ใช้ในการเดินทาง
• ไม่จำเป็นต้องเก็บ RC ไม่จำกัดเส้นทาง และ ไม่จำกัดระยะเวลา (แต่ห้ามเกิน 3 ชม.นะครับ)
• การมอบรางวัล ทางผู้จัดจะเชิญคณะกรรมการ ร่วมเฉลยจับเวลาที่ได้รางวัล (เหมือนออก ล๊อตเตอรี่เลยคับ) บนเวที ในพิธีเปิดกิจกรรม ที่ Central Pattaya Beach หลังจากที่รถทุกคันถึงเส้นชัย
• ตัวอย่างการตัดสิน ในกรณีรถหมายเลข 22 เข้าเส้นชัยด้วยเวลา 1:24 เมื่อกรรมการเฉลยเวลาบนเวที จับได้เวลา 1:25 และถ้าผู้เข้าแข่งขันคันใดมีเวลาได้ใกล้เคียง 1:25 ที่สุด ก็จะได้รับรางวัล 100,000 บ. ไปทันทีได้เลยครับ

พบกันวันเสาร์ที่ 9 เมษายน 54 ที่ลานด้านหน้า CentralWorld เปิดให้ลงทะเบียนพร้อมรับเบอร์ 10:00-13:00 น. เท่านั้นนะครับ

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
http://www.facebook.com/fastandfuriousthailandfanclub
http://chawawa.fr/bangkok/nitto-ff5-rally-register

Fast And Furious 5 (Official Trailer) HD

งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 32

งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 32
TOYOTA at the 32nd Bangkok International Motor Show 2011

The 32nd annual Bangkok International Motor Show will take place between March 25th and April 5th, 2011 at Challenger 1-3, Impact Muang Thong Thani.








Schedule of Activities:

*** Friday, March 25, 2011 ***
08:00 - 22:00 Hrs. - Toyota Hilux Vigo The Magnificent Ten 2011 Impact Lakeside
08:00 - 22:00 Hrs. - Singha Offroad Man In Motor Show 2011 Impact Lakeside
13:00 - 22:00 Hrs. - Car Audio Show Car audio zone
15:00 Hrs. - Mini Society Show Challenger Front Ramp
18:00 - 20:30 Hrs. - Car of the Year 2011 ( Prizegiving Ceremony ) Royal Jubilee Ballroom
18:00 - 21:00 Hrs. - Special Show From Mini Stallions Concert Hall behind Challenger 1

Honda CBR150R 2011 at Bangkok Motor Show 2011

*** Saturday, March 26, 2011 ***
08.00 - 22.00 Hrs. - Toyota Hilux Vigo The Magnificent Ten 2011 Impact Lakeside
08.00 - 22.00 Hrs. - Singha Offroad Man In Motor Show 2011 Impact Lakeside
09:00 - 20:00 Hrs. - BMW Society Show Activity Zone
10:00 - 21:00 Hrs. - Low Rider Show Activity Zone
12:00 - 21:00 Hrs. - Mtisubishi Club Show Activity Zone
12:00 - 21:00 Hrs. - Classic Bike Show ( Japan ) Motorcycle Zone
13:00 - 22:00 Hrs. - Car Audio Show Car audio zone
18:00 - 21:00 Hrs. - Special Show From Honda Concert Hall behind Challenger 1

*** Sunday, March 27, 2011 ***
07:00 - 21:00 Hrs. - Volks Club Show and Volks Rally Activity Zone
08.00 - 22.00 Hrs. - Toyota Hilux Vigo The Magnificent Ten 2011 Impact Lakeside
09:00 - 20:00 Hrs. - 4th I Love Retro Car Activity Zone
10:00 - 21:00 Hrs. - American Classic Car Club Show Activity Zone
12:00 - 18:00 Hrs. - Radio Controlled Plane Show Activity Zone
12:00 - 21:00 Hrs. - Scooter Show Motorcycle Zone
13:00 - 22:00 Hrs. - Car Audio Show Car audio zone
18:00 - 21:00 Hrs. - Special Show From Kawasaki Concert Hall behind Challenger 1

Monday, March 28, 2011
08:00 - 22:00 Hrs. - Singha Offroad Man In Motor Show 2011 Impact Lakeside
12:00 - 20:00 Hrs. - Evolution Car Show Activity Zone
13:00 - 22:00 Hrs. - Car Audio Show Car audio zone
14:00 - 20:00 Hrs. - Miss Presenter Contest 2011 Royal Jubilee Ballroom
15:00 - 20:30 Hrs. - Porsche Club Show Challenger Front Ramp

Tuesday, March 29, 2011
08:00 - 22:00 Hrs. - Singha Offroad Man In Motor Show 2011 Impact Lakeside
13:00 - 22:00 Hrs. - Car Audio Show Car audio zone
15:00 - 21:30 Hrs. - VIP Car Thailand Show Activity Zone
18:00 - 21:00 Hrs. - Special Show From Suzuki Concert Hall behind Challenger 1

Wednesday, March 30, 2011
08:00 - 22:00 Hrs. - Singha Offroad Man In Motor Show 2011 Impact Lakeside
13:00 - 21:00 Hrs. - Auto Show Activity Zone
13:00 - 22:00 Hrs. - Car Audio Show Car audio zone
18:00 - 21:00 Hrs. - Special Show From Suzuki Concert Hall behind Challenger 1

Thursday, Marchl 31, 2011
08:00 - 22:00 Hrs. - Singha Offroad Man In Motor Show 2011 Impact Lakeside
12:00 - 20:00 Hrs. - Siam Speed Show Activity Zone
13:00 - 22:00 Hrs. - Car Audio Show Car audio zone
18:00 - 21:00 Hrs. - Special Show From Suzuki Concert Hall behind Challenger 1

Friday, April 01, 2011
08:00 - 22:00 Hrs. - OFFROAD Federation of Thailand Impact Lakeside
12:00 - 20:00 Hrs. - Nissan Thailand Show Activity Zone
13:00 - 22:00 Hrs. - Car Audio Show Car audio zone
18:00 - 21:00 Hrs. - Special Show From Yamaha Concert Hall behind Challenger 1

Saturday,April 02, 2011
08:00 - 22:00 Hrs. - OFFROAD Day Impact Lakeside
10:00 - 20:00 Hrs. - XO Autosalon ( modified car show ) Activity Zone
12:00 - 18:00 Hrs. - Radio Controlled Car Championship 2011 Activity Zone
12:00 - 21:00 Hrs. - Mtisubishi Club Show Activity Zone
12:00 - 21:00 Hrs. - Classic Bike Show ( Euro ) Motorcycle Zone
13:00 - 22:00 Hrs. - Car Audio Show Car audio zone
15:00 - 22:00 Hrs. - AE Thailand Show Activity Zone
18:00 - 21:00 Hrs. - Special Show From Honda Concert Hall behind Challenger 1
23:00 Hrs. - Motor Show Overnight Rally Challenger Front Ramp

*** Sunday, April 03, 2011 ***
07:00 - 21:00 Hrs. - Mini Austin Rally Show Activity Zone
12:00 - 18:00 Hrs. - Radio Controlled Car Championship 2010 Activity Zone
12:00 - 21:00 Hrs. - IRC Tire Motorcycle Day Motorcycle Zone
13:00 - 21:00 Hrs. - Toyota Insty Thailand&Rally Show Activity Zone
13:00 - 22:00 Hrs. - Car Audio Show Car audio zone
18:00 - 21:00 Hrs. - Special Show From Suzuki Concert Hall behind Challenger 1

Monday, April 04, 2011
13:00 - 21:00 Hrs. - Mazda MX-5 Show Activity Zone
13:00 - 22:00 Hrs. - Car Audio Show Car audio zone
18:00 - 21:00 Hrs. - Special Show FromYamaha Concert Hall behind Challenger 1

Tuesday, April 05, 2011
12:00 - 21:00 Hrs. - Mazda 2,3 Activity Zone
13:00 - 22:00 Hrs. - Car Audio Show Car audio zone
18:00 - 21:00 Hrs. - Special Show From Yamaha Concert Hall behind Challenger 1

Ticket price for the 2011 Bangkok Motor Show is set at BHT 100, available at the entrance.

info credit: http://www.discoverythailand.com

The IMPACT Map : click the image to see enlarge